วันพฤหัสบดี, ตุลาคม 04, 2555

คู่มือแบคแพค-ปรับตัวหลังเดินทาง





โดย มารพิณ
ไป เฟซบุ๊ค   www.facebook.com/marnpinbook
ไป หน้ารวมข้อมูลเที่ยวนอก-แบคแพค





ปรับตัวหลังเดินทาง

ถ้าเดินทางนานกว่าสองอาทิตย์ขึ้นไป เรื่องนึงที่มักจะมองข้ามกันไปก็คือ การปรับตัวหลังกลับมาถึงบ้านเราแล้ว บอกตามตรง หลายคนที่พบว่าตัวเราเริ่มชอบความอิสระของชีวิตแบ็คแพ็คเกอร์แล้ว อาจจะรู้สึกแย่ที่ต้องกลับมานั่งทนทำงานอีก หรือต้องกลับมาสู่ภาระความรับผิดชอบตามเงื่อนไขชีวิตของพวกเราแต่ละคนอาจทำให้อึดอัดใจ

พอบวกเข้ากับงานสุมหัวที่ต้องรอเราเคลียร์ หรือปัญหาอื่นๆ ที่รอเราจัดการ ต้องกลับมาเจอเพื่อนบ้านเฮงซวยหน้าเดิม สถานการณ์แบบนี้อาจทำให้รู้สึกว่าทุกอย่างแย่ลง จนรู้สึกทนไม่ได้

ผมอยากให้มองไปอีกอย่าง ชีวิตของเราแต่ละคนก็มีความรับผิดชอบที่เรามี ยังมีงานที่ต้องทำหารายได้ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ของแต่ละคน ในด้านนี้เราก็จะต้องเข้าใจตัวเรา ส่วนเรื่องปัญหาเคลียร์งานที่ค้างรอเราอยู่นั้น ถ้าเราวางแผนให้ดีตั้งแต่ก่อนไป ปัญหานี้จะไม่เท่าไหร่ ช่วงแรกที่กลับมาก็งานยุ่งบ้างเป็นธรรมดา

ถ้าใครไม่เคยไปเที่ยวมาก่อน กลับมาครั้งแรกจะดูยุ่ง แต่ถ้าเคยไปเที่ยวมาหลายหน รู้ว่าจะเตรียมยังไง จัดแจงอะไรก่อนไป คราวนี้กลับมาเคลียร์งานที่ค้างคาง่ายมากครับ

วงจรชีวิตของนักเดินทาง

อย่าคิดว่า แบ็คแพ็คเกอร์ฝรั่งหรือเอเชียที่เราเจอกลางทาง เห็นเขาเที่ยวทั่วโลกหกเดือนบ้าง หนึ่งปีบ้าง อย่าคิดว่าคนพวกนี้ไม่ได้ทำงาน วันๆ เอาแต่เที่ยว หลายคนที่พบรู้จักและพูดคุยกันมา เขาทำงานครับและทำงานหนัก เก็บเงินอย่างหนัก วางแผนกันมาเป็นปีๆ ก่อนจะมาเที่ยวกันมันส์อย่างที่เราเห็น

เขาใช้ชีวิตเป็นวงจร มีช่วงทำงานและมีช่วงเที่ยว บางคนทำงานสองปีสามปี แล้วลาออก ใช้เวลาเที่ยวแปดเดือนบ้าง ปีนึงบ้าง ตามเงื่อนไขของแต่ละคน ถ้าคิดว่าเราชอบการเดินทางจริงๆ อาจลองใช้ชีวิตแบบนี้ก็ได้ โดยเฉพาะคนหนุ่มสาวที่ยังไม่มีครอบครัว

บางคนทำงานมาสิบปี ถึงเวลาจะต้องเปลี่ยนงานเลยขอเที่ยวมันส์ๆ ซักปีนึงเถอะ แบบนี้ก็มี

ทางเลือกอีกทางคืออาชีพฟรีแลนส์ แต่คิดให้ดีก่อนจะเป็นฟรีแลนส์เพราะการจะเป็นฟรีแลนส์ ถึงแม้จะดูเท่ แต่ไม่ง่ายอย่างที่คิด จะต้องมีความเชื่อมั่นในเดือนหน้า เชื่อว่าเดือนหน้าหรือเดือนถัดๆ ไปจะต้องหาเงินได้ ถ้าเราไม่เชื่อมั่นตรงนี้ ก็จะเป็นฟรีแลนส์ได้ยาก

เป็นฟรีแลนส์ถึงจะมีอิสระมาก มีเวลาเหลือ แต่รายได้มักจะน้อยกว่าทำงานประจำ ส่วนทำงานประจำมีรายได้ก็จริง แต่มักจะไม่มีเวลาที่จะไปไหน โลกเราก็เป็นแบบนี้ล่ะครับ จะหาอะไรที่สมบูรณ์แบบมันเป็นไปได้ยากยิ่งกว่ายาก

การเดินทางแบบที่เราเที่ยวเองนี้เหมือนกระจกสะท้อนที่ทำให้เราได้เจอกับผู้คนมากมายที่ใช้ชีวิตไม่เหมือนเรา เราตั้งคำถามกับชีวิตของเขา และในทางกลับกันเราก็ได้แอบตั้งคำถามกับชีวิตของเราเองอยู่ในใจด้วยเหมือนกัน เป็นเรื่องปกติ ที่เวลาเรากลับมาถึงบ้านอีกครั้ง คำถามพวกนี้จะประทุขึ้นมา

นอกจากนี้ เรื่องความสัมพันธ์เป็นอีกเรื่องที่พบกันบ้าง(อันที่จริง ส่วนใหญ่ไปเที่ยวด้วยกันแล้วจะดีขึ้น) โดยบางคนอาจพบว่า แฟนที่เราไปเที่ยวด้วยสองอาทิตย์ หรือหนึ่งเดือนในต่างแดน อาจไม่ใช่คนที่เราคิดว่าจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่ร่วมกันได้ บางทีปัญหาอยู่ที่ตัวแฟนเรา บางทีปัญหาอยู่ที่เราเอง บางทีเราได้ค้นพบ “ตัวตน” ของเราเองขึ้นมา และเป็นตัวตนที่ไม่เหมือนอย่างที่เคยเป็น

มองในแง่ดีครับ บางครั้งเส้นทางชีวิตคนเราบางเส้น ก็ต้องมีคำว่า “สุดทาง” เหมือนกัน ก่อนที่จะไปเริ่มต้นเส้นทางใหม่ ๆ อย่ากลัวที่จะปิดฉาก อย่ากลัวที่จะเริ่มต้น และอย่ากลัวที่จะค้นหาให้ลึกๆ ว่า ตัวเราที่แท้จริงคือใคร ต้องการอะไร


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++ cx]

 ใครที่คิดว่าเรื่องราว ข้อมูลการเดินทางที่เขียนที่นี่โอเค น่าสนใจ ฝาก share บอกต่อเพื่อนๆด้วยครับ ผมขออนุญาตไม่ตอบคำถามนะครับ เพราะเดินทางบ่อย คงมาตอบได้ไม่ทันใจ
 © สงวนลิขสิทธิ์ มารพิณ